Articles

ทักษิณ ไม่ใช่วีรบุรุษ กรณีใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ

by rakbankerd
แทบไม่น่าเชื่อว่า คนเรามันจะลวงโลกได้ขนาดนี้

คำพูดในทำนองว่า "ทักษิณบริหารเศรษฐกิจเก่ง และเป็นคนใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ" หรือแม้กระทั่งการคุยโอ่ในลักษณะว่า"ทักษิณเป็นคนเข้ามาใช้หนี้ไอเอ็มเอฟที่ รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก่อทิ้งไว้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ 2540" กำลังถูกนำมามอมเมา เป่าหู หรือแม้กระทั่งลวงหลอกประชาชนรากหญ้า ให้ตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของทักษิณและพวก อีกครั้ง !

เพื่อจะสร้างภาพ โกหกประชาชนว่า "ทักษิณ" คือ ผู้เก่งกาจในการกอบกู้วิกฤติเศรษฐกิจ

เพื่อประชาชนผู้หลงผิด จะได้โหยหา ฝันถึงวีรบุรุษที่ไม่มีอยู่จริง

การปลดหนี้ไอเอ็มเอฟ ไม่ใช่ผลงานของ "ทักษิณ ชินวัตร" !!!

ไม่ใช่ว่า "ทักษิณ" ขึ้นมาเป็นนายกฯ แล้วก็ใช้ความสามารถของตนเองล้วนๆ แต่เพียงผู้เดียว จนช่วยให้ประเทศไทยปลดหนี้ไอเอ็มเอฟได้สำเร็จ

ประชาชนคนไทยทุกคน ผู้ต้องทนทุกข์จากการรักษาวินัยการคลัง เจ็บปวดกับการรัดเข็มขัดทางเศรษฐกิจ เหนื่อยยากจากการสู้งานสู้ชีวิต ตลอดช่วงเวลาหลังวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 ต่างหาก คือ ผู้สมควรต้องได้รับการยกย่อง

เพราะเมื่อเกิดวิกฤติ ปี 2540 ประเทศไทยก็ไปกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ ทำให้มีพันธะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟ เช่น การรักษาวินัยการคลัง การขี้นค่าบริการกิจการของรัฐวิสาหกิจให้สอดคล้องกับต้นทุน การให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการประมูลโครงการลงทุนภาครัฐ การควบคุมอัตราเงินเฟ้อ การคุมเข้มเงินเดือนภาครัฐ ฯลฯ

ระหว่างนั้น เมื่อการส่งออกดีขึ้น ดุลการค้าดีขึ้น การค้าการขายภายในดีขึ้น ประชาชนจ่ายภาษีมากขึ้น เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้น ฯลฯ ประเทศไทยก็ค่อยๆ ผ่อนชำระหนี้ไอเอ็มเอฟไปเรื่อยๆ

ไม่ใช่เพิ่งมาใช้หนี้กัน ตอนที่นายกรัฐมนตรีชื่อ "ทักษิณ ชินวัตร"

คนที่ไม่รู้ย่อมไม่ผิด แต่คนที่รู้แล้ว แต่แกล้งโง่ หรือจงใจพูดความจริงครึ่งเดียว หลอกลวงประชาชนคนไทยว่า "ทักษิณ ชินวัตร" คือ วีรบุรุษทางการเมือง ผู้จุติลงมาสู่การเมืองและใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้สำเร็จ คนแบบนี้ คือ คนทรยศเพื่อนร่วมชาติที่ทุกข์ยากลำบากร่วมกันมาในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 อย่างแท้จริง

อย่าลืมว่า วิกฤติ 2540 เป็นช่วงเวลาที่ "ทักษิณ ชินวัตร" แทบจะไม่กระทบกระเทือนอะไรเลย เพราะสามารถล่วงรู้อะไรบางอย่าง ทำให้ธุรกิจในเครือชินฯ ของเขา รอดตัวจากการลดค่าเงินบาทอย่างน่าสงสัย แตกต่างจากธุรกิจในประเทศรายอื่นๆ ที่ไม่มีโอกาสได้ข้อมูลทำนองนั้น

ลองทำความเข้าใจกับประเด็นเหล่านี้

1. หนี้ไอเอ็มเอฟ และพันธะกรณีที่รัฐบาลไทยต้องปฏิบัติตาม เกิดขึ้นในช่วงสมัยใด ?

ต้องรู้พื้นฐานเสียก่อนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนักการเมืองหน้าเก่า เคยมีบทบาทสำคัญอยู่ในรัฐบาลที่ประกาศลดค่าเงินบาท เมื่อปี 2540

นายเสนาะ เทียนทอง เปิดโปงไว้ในหนังสือ "รู้ทันทักษิณ 4" บอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณเข้ามาเป็นรองนายกรัฐมนตรีสมัยรัฐบาลชวลิต ก่อนเกิดวิกฤตค่าเงินบาท ต่อมา เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้นลาออกไป เคยมีการคิดกันว่าจะให้ตำแหน่งนี้กับพ.ต.ท.ทักษิณด้วยซ้ำ ตนได้ไปทาบทามคนที่น่าเชื่อถือในสังคม โดยนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รับปากว่าจะเข้ามาช่วยเป็นรมว.คลัง แต่ปรากฏว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไปนำนายทนง พิทยะ เข้ามารับตำแหน่งนี้แทน โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ไปซุบซิบกับ พล.อ.ชวลิต และนายโภคิน พลกุล อดีต รมต.สำนักนายกฯ แล้วจึงมีคำสั่งแต่งตั้งนายทนง เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

"ก่อนเงินบาทลอยตัว ผมไม่รู้เรื่องด้วย เพราะอยู่นอกวงของพวกเขา คนที่เกี่ยวข้องกับการลดค่าเงินบาทในขณะนั้นมี 4 คน คือ พล.อ.ชวลิต พ.ต.ท.ทักษิณ นายทนง และนายโภคิน ส่วนจะรู้เห็นกันขนาดไหนผมไม่รู้เขาบอกว่าเขาไม่รู้อันนี้ไม่มีใบเสร็จ แต่ถ้าถามผมว่าผลที่เกิดหลังค่าเงินบาทลอยตัวออกมาอย่างไร มันส่อชัดว่าทักษิณและบริษัทรอดวิกฤตคนเดียว คือผลลัพธ์มันสะท้อนชัดอยู่แล้ว การที่มีคนไปซื้อประกันความเสี่ยงเรื่องค่าเงินบาทเอาไว้มากๆ หรือไปซื้อดอลลาร์เอาไว้มากๆ ก่อนประกาศลอยค่าเงินบาท ก็เหมือนจุดไฟเผาบ้านตัวเองเพื่อเอาเงินประกัน เศรษฐกิจของชาติพังเสียหาย แต่ตัวเองรอดพ้นวิกฤตเพราะได้ประกัน"

หลักฐานข้อเท็จจริง ปรากฏชัดแจนว่า รัฐบาลพลเอกชวลิต เป็นผู้อนุมัติให้นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ผู้ใกล้ชิดกับทักษิณ) ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงฉบับที่ 1 (Letter of Intent : LOI) เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2540 หลังจากลงนามแล้ว พลเอกชวลิตจึงประกาศลาออกจากการเป็นนายกรัฐมนตรี

ความเป็นจริง คือ ประเทศไทยเริ่มเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟตั้งแต่สมัยรัฐบาลชวลิต

เมื่อประเทศเป็นหนี้ ก็มีเงื่อนไขต้องปฏิบัติตามพันธะกรณีที่ตกลงไว้กับเจ้าหนี้ คือ ไอเอ็มเอฟ

กู้เงินเขามาแล้ว ก็ต้องทำตามสัญญาเพื่อใช้หนี้เขา

เป็นที่มาของการต้องดำเนินมาตรการต่างๆ ที่เป็น "ยาขม" ก่อให้เกิดความเจ็บปวดแก่ประชาชนคนไทยในยามวิกฤติ ตรงนี้เอง ที่"ทักษิณและพวก" นำไปโจมตี เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เมื่อตอนหาเสียงปี 2544

ทั้งๆ ที่ ในช่วงเวลาหลังรัฐบาลพลเอกชวลิตนั้น ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาล ก็ต้องดำเนินการตามพันธะกรณีที่ตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟ

ทักษิณเองก็เถอะ...

แต่โดยที่ "ทักษิณ" อาศัยอำนาจทุนที่สั่งสมมาจากการที่ตนไม่ถูกกระทบจากการลดค่าเงินบาทเมื่อปี 2540 เหมือนคนอื่นๆ นำมาเป็นเครื่องมือปูพรม ถล่มคู่แข่งทางการเมืองรายอื่นๆ และอาศัยความเจ็บปวดของประชาชนจากพิษวิกฤติเศรษฐกิจ สังคมโหยหาวีรบุรุษ ต้องการความฝันเพื่อปลอบประโลมความจริงที่เจ็บปวด

ทักษิณใช้วิธี "รีแบรนดิ้ง" หรือ สร้างภาพลักษณ์ทางการเมืองใหม่ให้กับตนเอง โดยการกวาดต้อน ส.ส.หน้าเก่าๆ เข้ามาอยู่ใต้ชายคาพรรคชื่อใหม่ว่า "ไทยรักไทย" พร้อมกับสร้างภาพว่า ตนเองเป็นนักการเมืองใหม่ ทั้งๆ ที่ เคยร่วมอยู่ในรัฐบาลชวลิต ก่อนประกาศลอยตัวค่าเงินบาทแท้ๆ

พรุ่งนี้ มาดูกันชัดๆ ว่า ประเทศไทยรอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 ขึ้นมาได้อย่างไร? การส่งออกดีขึ้นตอนไหน? เพราะอะไร? ฝีมือของทักษิณหรือไม่?

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟ เป็นอย่างไร? หนี้ลดลงตอนไหน? เพราะทักษิณหรือไม่ ?

จะได้เห็นชัดๆ ว่า ไม่มีทักษิณ ประเทศไทยก็รอดพ้นวิกฤติเศรษฐกิจ 2540 !

ไม่มีทักษิณ ประเทศไทยก็สามารถใช้หนี้ไอเอ็มเอฟได้ !

ตรงกันข้าม ประเทศชาติอาจจะไม่ต้องเจอกับเรื่องเลวร้ายแบบนี้เสียด้วยซ้ำ !

Sponsor Ads


About rakbankerd Freshman   

3 connections, 0 recommendations, 41 honor points.
Joined APSense since, January 9th, 2008, From Unknown.

Created on Dec 31st 1969 18:00. Viewed 0 times.

Comments

No comment, be the first to comment.
Please sign in before you comment.